ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
คำแนะนำก่อนเข้าปฏิบัติการ
1. ระเบียบการใช้ห้องปฏิบัติการเคมี
2. ความปลอดภัยในการทำปฏิบัติการเคมี
3. อุปกรณ์เครื่องแก้ว
4. เทคนิคในห้องปฏิบัติการ
ระเบียบการใช้ห้องปฏิบัติการเคมี
1.รักษาความสะอาดเรียบร้อยในห้องปฏิบัติการ เมื่อทำการทดลองเสร็จสิ้นแล้ว
ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดโต๊ะ ให้สะอาด ถ้าทำสารเคมีหกบนโต๊ะหรือบนพื้น
ให้ทำความสะอาดทันที
2.ก่อนใช้สารเคมีชนิดใดก็ตาม ให้อ่านฉลากชื่อสารให้แน่ใจเสียก่อน
3.ห้ามยกขวดหรือภาชนะใส่สารเคมีส่วนกลางไปใช้ที่โต๊ะ
4.ไม่เติมสารเคมีมากเกินความจำเป็น
5.สารเคมีที่ใช้ไม่หมด ไม่ควรใส่กลับลงในขวดเก็บสารนั้นอีก
6.ไม่ใช้ปิเปตหรือหลอดหยดที่ใช้แล้วดูดสารละลายจากขวดที่ต้องใช้ร่วมกันกับผู้อื่นหรือจากขวดที่มีหลอดหยดอยู่แล้ว
7.ไม่ทิ้งก้านไม้ขีดไฟ กระดาษลิตมัสหรือของแข็งใดๆ
ที่ไม่ละลายน้ำลงในอ่างล้างมือ
8.ห้ามเผาเครื่องแก้วชนิดเนื้อแก้วหนา เช่น กระบอกตวง บิวเรต
หรือขวดใส่สารด้วยเปลวไฟจากตะเกียงโดยตรงเพราะอาจแตกได้ง่าย
ส่วนถ้วยกระเบื้องอาจเผาในเปลวไฟโดยตรงได้ แต่ไม่ควรเผาให้ร้อนเร็วเกินไป
ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการเคมี
เพื่อให้การทดลองในห้องปฏิบัติการเคมีดำเนินไปอย่างเรียบร้อย
และเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในห้องปฏิบัติการทุกคน
ทุกคนปฏิบัติตามกฎและระเบียบต่อไปนี้
ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย
1.สวมเสื้อคลุมปฏิบัติการและแว่นนิรภัยตลอดเวลาที่อยู่ในห้องปฏิบัติการเคมี
ผู้ที่สวมแว่นสายตาอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้แว่นนิรภัย
2.ห้ามเล่นและห้ามรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม
หรือสูบบุหรี่ในห้องปฏิบัติการเคมี
3.ห้ามทำการทดลองใดๆ นอกเหนือจากที่ได้มอบหมาย
4.ห้ามทำการทดลองโดยไม่มีผู้ควบคุม
5.เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ให้รายงานผู้ควบคุมทราบทันที
6.ห้ามชิมสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น
7.เมื่อใช้ปิเปตดูดสารละลาย ห้ามใช้ปากดูด
8.ใช้เครื่องแก้วด้วยความระมัดระวัง
เมื่อทำเครื่องแก้วแตกต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย
9.สำหรับปฏิกิริยาที่สารตั้งต้นหรือผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สพิษ กรดเข้มข้น
หรือแอมโมเนียให้ทำการทดลองในตู้ดูดควันเสมอ
10.ห้ามทิ้งสารเคมีใดๆ ลงในถังขยะ
สารเคมีที่ละลายในน้ำได้ให้ละลายในน้ำแล้วเทลงอ่างน้ำทิ้ง สารที่ไม่ละลายในน้ำ
ให้เทรวมกันในภาชนะที่เตรียมไว้
เทคนิคในห้องปฏิบัติการเคมี
การวัดปริมาตรของเหลว
อุปกรณ์สำหรับวัดปริมาตรของของเหลวมีหลายชนิดเราจะเลือกใช้ชนิดใดขึ้นอยู่กับว่าต้องการวัดปริมาตรให้ได้แม่นยำเพียงใด
และต้องการใช้อุปกรณ์นั้นในการบรรจุ (contain) หรือในการถ่าย (deliver)
ของเหลวที่มีปริมาตรแน่นอน
เราทราบแล้วว่าตามปรกติระดับของของเหลวในภาชนะใดๆ
มักไม่เป็นระนาบตรงในแนวราบ แต่จะมีลักษณะเป็นพื้นผิวโค้งลง หรือ
โค้งขึ้น เรียกว่า เมนิสคัส (meniscus)
ในการอ่านระดับของของเหลวนั้น
วิธีที่ถูกต้องคือ อ่านระดับของส่วนที่ต่ำสุดของเมนิสคัสที่โค้งลง
หรือส่วนสูงของเมนิสคัสที่โค้งขึ้น โดยให้เมนิสคัสอยู่ตรงระดับตาพอดี
และในบางกรณีก็อาจเพิ่มความถูกต้องในการอ่าน
ปริมาตรได้โดยขีดเส้นตรงสีเข้มบนแผ่นกระดาษสีขาว นำไปทาบไว้
หลังเมนิสคัสพร้อมกับเลื่อนขึ้นลงจนเส้นตรง (ในแนวระดับ)
นี้แตะกับเมนิสคัสพอดีแล้วจึงอ่านปริมาตรจากตำแหน่งของเส้นตรง
สำหรับการวัดปริมาตรที่ไม่ต้องการความแม่นยำสูงกว่า ± 1–2 cm3 อาจใช้กระบอกตวง (measuring cylinder) ขนาดใดขนาดหนึ่ง
และในงานที่ต้องการทราบปริมาตรโดยประมาณเท่านั้นก็อาจใช้บิกเกอร์หรือขวดรูปกรวยที่มีขีดบอกปริมาตรได้
ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำค่อนข้างสูง ( ± 0.01
cm3 ) อุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ใช้บรรจุของเหลวที่มีปริมาตรแน่นอนได้แก่ขวดวัดปริมาตร (volumetric
flask) ขนาดต่างๆ
ซึ่งมีขีดบอกปริมาตรไว้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามถ้ารินของเหลวในขวดนี้ลงในภาชนะอื่นจะได้ของเหลวน้อยกว่าปริมาตรที่บรรจุเสมอเพราะจะมีของเหลวบางส่วนตกค้างอยู่ภายในขวด
การถ่ายของเหลวที่มีปริมาตรแน่นอนทำได้โดยใช้บิวเรต
(burette) หรือ ปิเปต (pipette) บิวเรตที่ใช้ในห้องปฏิบัติการเคมีทั่วไป มีความจุ 25 cm3 หรือ 50 cm3 มีขีดแบ่งปริมาตรเป็นช่วงๆ ละ 0.1 cm3 แต่อ่านได้ถูกต้องประมาณ ±0.02
cm3 ปิเปตก็มีหลายขนาดเช่นกันแต่ที่ใช้สำหรับปฏิบัติการเคมีทั่วไปมักมีความจุ 10 cm3 หรือ 25 cm3 และวัดปริมาตรได้ถูกต้องประมาณ ±0.05
cm3
วิธีใช้บิวเรต มีดังนี้
1. นำบิวเรตที่สะอาดและแห้งมายึดติดกับขาตั้งด้วยที่ยึดดังแสดง
ปิดก๊อกที่ปลายล่างของบิวเรตแล้วรินของเหลวที่ต้องการใช้ผ่านกรวยแก้วลงในบิวเรตจนเกือบเต็ม
(ถ้าบิวเรตสะอาดแต่ไม่แห้ง ให้ใช้ของเหลว ปริมาณเล็กน้อยกลั้วภายในบิวเรต 1-2 ครั้ง แล้วไขทิ้งทางปลายล่าง ก่อนจะบรรจุของเหลวลงไป
2. ใช้มือซ้ายเปิดก๊อกโดยจับคร่อมบิวเรตดังแสดงในรูปปล่อยให้ของเหลวส่วนหนึ่งไหลออกเพื่อไล่ฟองอากาศจากปลายล่างของบิวเรตปิดก๊อกประมาณ
10 วินาที
แล้วบันทึกระดับของเหลวในบิวเรตให้ได้ ทศนิยม 2 ตำแหน่ง (หรืออาจปรับระดับของเหลวให้ตรงกับขีด 0 หรือขีดอื่นก็ได้)
3. เมื่อต้องการถ่ายของเหลวในบิวเรตลงทำปฏิกิริยากับของเหลว หรือ
สารละลายอีกชนิดหนึ่งในขวดรูปกรวย (ในการไตเตรต)
ให้ใช้มือขวาจับคอขวดรองรับตรงปลายล่างของบิวเรต
และใช้มือซ้ายเปิดก๊อกในลักษณะเดียวกับที่กล่าวมาแล้วเพื่อให้ของเหลวทั้งสองชนิดผสมเข้ากันดีจะต้องแกว่งหรือเขย่าขวดเบาๆอยู่ตลอดเวลาขณะถ่ายของเหลวจากบิวเรตลงสู่ขวด
4. เมื่อได้ของเหลวตามปริมาณที่ต้องการแล้วให้ปิดก๊อกแล้วรอ 15 วินาที
ก่อนอ่านและบันทึกระดับของเหลวที่เหลือในบิวเรตปริมาตรของของเหลวที่ถูกถ่ายออกจากบิวเรตจะหาได้จากผลต่างระหว่างระดับของเหลวที่อ่านได้ทั้งสองครั้ง
วิธีใช้ปิเปต มีดังนี้
1. ใช้มือบีบอากาศออกจากลูกยาง (pipette bulb) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนำลูกยางไปสวมที่ปลายบนของปิเปตที่สะอาดและแห้ง
(ถ้าปิเปตไม่แห้งต้องกลั้วด้วยของเหลวที่ต้องการวัดปริมาตร
เช่นเดียวกับในการใช้บิวเรต)
2. จุ่มปลายล่างของปิเปตลงในของเหลวที่ต้องการวัดปริมาตร
คลายมือที่บีบลูกยางออกให้ของเหลวถูกดูดขึ้นไปในปิเปตจนเลขขีดบอกปริมาตรบนก้านปิเปตประมาณ
3 cm
3. ดึงลูกยางออก และรีบใช้นิ้วชี้ขวาปิดปลายบนของปิเปตทันที
ค่อยๆขยับนิ้วชี้ขวาไปมา
ปล่อยอากาศเข้าในปิเปตทีละน้อยให้ระดับของของเหลวลดลงมาจนเมนิสคัสแตะกับขีดบอกปริมาตรพอดี
แล้วกดนิ้วปิดปลายบนให้แน่น ไม่ให้อากาศเข้าได้อีก
4. ยกปิเปตขึ้นให้พ้นจากของเหลว
ใช้กระดาษเช็ดมือซับหยดของเหลวที่เกาะอยู่ภายนอกปิเปตให้แห้ง
5. (ขณะนี้นิ้วชี้ขวายังปิดอยู่ที่ปลายบนของปิเปต)
จุ่มปลายปิเปตลงในภาชนะที่จะใช้ใส่ของเหลวยกนิ้วชี้ขวาขึ้น
ปล่อยให้ของเหลวในปิเปตลงจนหมดแตะปลายปิเปตกับข้างภาชนะเพื่อให้ของเหลวหยดสุดท้ายไหลลงด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น